ระบบขนส่ง และบริการจัดส่งพัสดุ ในยุคดิจิตอล

      สวัสดีครับผู้เขียนขออนุญาติเพิ่มเติมหมวดบทความใหม่แต่ยังคงเป็น เรื่องราวทั่วไปที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ที่ผู้เขียนได้ประสบพบเจอมาเอง ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ครับ

      ในบทความนี้ จะเป็นบทความที่เกี่ยวกับเรื่องราวของระบบขนส่ง และการบริการจัดส่งพัสดุในแบบต่างๆ ที่ตอนนี้ในประเทศเราเรียกได้ว่าก้าวกระโดดไปไกลมากทีเดียว จากเดิมเรามีไปรษณีย์ ที่เป็นอันดับต้นๆ ในการจัดส่งพัสดุ และสิ่งของต่างๆ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มีบริษัทเอกชนจำนวนมากเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และ2-3ปีที่ผ่านมาเริ่มมีความนิยมมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องด้วยความรวดเร็วทันใจ พัสดุไม่เสียหาย ถึงมือผู้รับแน่นอนตรวจสอบได้แบบออนไลน์ และมีการโทรแจ้งผู้รับก่อนส่ง ฯลฯ

       ในปัจจุบันที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ พฤษภาคม 2560 บริการจัดส่งพัสดุก้าวไปถึงขั้นที่ขนาดว่า ไปรับพัสดุต้นทางภายใน 20 นาที และส่งถึงผู้รับปลายทางภายในประมาณ 2 ชม. หรือเร็วกว่านั้นตามระยะทาง (กรุงเทพฯและปริมลฑล) แถมยังสามารถตามดูตำแหน่งพนักงานจัดส่งได้แบบเรียวไทม์ เรียกได้ว่าตามดูทุกฝีก้าวกันเลยทีเดียว เหมือนเป็นยุกค์ทองของธุระกิจการค้าขายในยุคดิจิตอล ที่อะไรๆก็ต้องรวดเร็วทันใจ บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพขั้นสูงสุด พึ่งพอใจทั้งผู้ส่งและผู้รับ มาอ่านกันครับว่าปัจจุบันมีแบบไหนกันบ้าง

ส่งพัสดุทั่วไป คือ หลักเกณฑ์การจัดส่งก็คล้ายกับไปรษณีย์ แต่ที่บริษัทเอกชนพวกนี้มีบริการพิเศษที่น่าสนใจเช่น

1.มีระบบแจ้งเตือนก่อนส่ง มีการส่ง SMS ถึงผู้รับปลายทางตอนเช้าของวันที่จะจัดส่ง พร้อมแจ้งลิงค์ และเลขที่พัสดุให้ผู้รับ เช็คสถานะว่า ตอนนี้พัสดุอยู่ที่ไหน เตรียมการจัดส่งรึยัง และระบบเซ็นรับพัสดุเป็นแบบดิจิตอล บางบริษัท เซ็นที่จอมือถือของพนักงานส่งได้เลย

2.มีการโทรแจ้งผู้รับก่อนส่ง เพื่อนัดเวลาจัดส่ง เพราะบางครั้งผู้รับไม่อยู่บ้าน สามารถแจ้งกับพนักงานส่งว่าฝากเพื่อนบ้าน หรือฝาก รปภ.ของหมู่บ้านได้ บางบริษัทเอาใจถึงขนาดที่ว่า สามารถนัดเวลาที่ผู้รับสะดวก เอาแบบว่ารอส่งตอนเลิกงานได้ไหม เพราะบางอย่างเป็นพัสดุเก็บเงินปลายทาง ซึ่งสามารถชำระเงินกับพนักงานที่มาส่งได้ทันที บางบริษัทมีเครื่องรูดบัตรเครดิตมาพร้อม ตามแต่ความต้องการของผู้รับ และเมื่อได้รับพัสดุแล้ว สามารถเช็คได้ว่าใครเป็นผู้รับ เวลาเท่าไร มีรายละเอียดของผู้รับที่มากขึ้น

3.ส่งพัสดุจำพวกของเหลว หรือของจำพวกที่แตกหักง่าย แตกต่างกับการส่งแบบเดิมๆอย่างสิ้นเชิงกันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นข้อดีของผู้ประกอบการค้าขายสินค้าจำพวกนี้เลย  เช่น ขวดยาน้ำ ครีม ยาสระผม  หรือของที่แตกหักง่าย เช่น ขวดแก้ว แว่นตา เป็นต้น เพียงแค่ผู้ส่งแจ้งบริษัทนั้นๆว่าเป็นสินค้าประเภทแตกหักง่าย ให้พนักงานจัดส่งระมัดระวังเป็นพิเศษได้

4.พนักงานจัดส่งที่บริการอย่างดีเยี่ยม บางบริษัทมีการจับเก็บข้อมูล ที่ผู้รับพัสดุ ให้ข้อมูลการบริการของพนักงานส่งพัสดุ โดยการสุ่มตรวจสอบ การโทรกลับไปสอบถามผู้รับ ว่าการบริการดีหรือไม่อย่างไร ให้คะแนนพนักงานที่มาส่งเท่าไร และนำคะแนนที่ได้มาจัดอันดับให้พนักงานนนั้นๆ และมอบเงินตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานที่มีคะแนนสูงๆ เช่นนี้เองเป็นการกระตุ้นพนักงานให้บริการอย่างเต็มที่ บางบริษัท พนักงานส่งจะต้องรับผิดชอบพัสดุที่ตนนำส่ง อย่างเต็มความสามารถ เนื่องจากต้องรับผิดชอบค้าเสียหาย 100% ไม่ว่าจะเปียกน้ำ แตกหัก เสียหาย ไม่อยู่ในสภาพเดิม สูญหาย เป็นต้น

5.รวดเร็วขึ้น เช่น ร้านค้าแจ้งทางบริษัทจัดส่งพัสดุให้มารับพัสดุเย็นวันนี้ พัสดุนั้นจะพร้อมส่ง และถึงมือผู้รับในวันพรุ่งนี้เลยทีเดียว (รวมถึงต่างจังหวัดด้วย) ...อ่านไม่ผิดหรอกครับมันเกิดขึ้นแล้วครับ ขั้นตอนคือ รวบรวมพัสดุของร้านต่างๆที่มีชื่อที่อยู่จ่าหน้าซองหรือกล่องเรียบร้อยแล้ว มารวมกันที่ศูนย์คัดแยกใหญ่ เพื่อแยกตำบล อำเภอ จังหวัด ออกและขนส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าย่อย นั้นๆตอนกลางคืน และสามารถจัดส่งได้เลยตอนเช้า ถึงมือผู้รับภายในเช้าของอีกวันเลย คือส่งวันนี้ถึงพรุ่งนี้นั้นเอง ในราคาต่ำสุดประมาณ 35 บ./ชิ้น น้ำหนักและขนาดแล้วแต่บริษัทเอกชนนั้นๆกำหนด ซึ่งก็มีโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ ให้เลือกอีกมากมาย

6.ราคาในการจัดส่งถูกมาก ส่วนมากจะวัดกันที่ขนาดของพัสดุ ส่วนน้ำหนักจะไม่เกินที่บริษัทนั้นๆจะกำหนด เช่น 3-5 กก. และมีส่วนลดสำหรับการส่งพัสดุจำนวนมาก

ทั้งหมดนี้เป็นบริการจัดส่งพัสดุที่มองดูแล้ว คุณผู้อ่านคิดว่ารวดเร็วทันใจแล้วใช่ไหมครับ ยังครับ ยังมีบริการที่รวดเร็วทันใจยิ่งกว่าที่กล่าวมาข้างต้น และเพิ่มความสะดวกสบาย ทั้งบริการชั้นยอด ชนิดที่ว่าผู้ใช้ไม่ต้องออกไปไหนกันเลยที่เดียว เพียงแค่สั่งงานผ่านแอฟพิเคชั่นบนมือถือเท่านั้นเอง

สำหรับวันนี้ผู้เขียนขอพักไว้เพียงเท่านี้ก่อน ไว้พบกับบทต่อไปเร็วๆนี้ครับ
       

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น